I SAW THE DEVIL [2010]


I SAW THE DEVIL [2010]
(บรรยายอังกฤษ)



Director: Kim Jee-Woon
Writer: Park Hoon-Jung
Producer: Kim Hyung-Woo, Jo Sung-Won, Kim Jae-Young, Kim Jung-Hwa
Cinematographer: Lee Mo-Gae
Release Date: August 11, 2010
Runtime: 141 min.
Genre: Thriller / Award Winning / Best Film-Movie of the Year
Distributor: Showbox/Mediaplex
Language: Korean
Country: South Korea



I SAW THE DEVIL (KIM JEE WOON /2010/ST KR) ปีศาจ

คำถามที่น่าสนจากชื่อเรื่อง คือ ใครคือ I ตามด้วย SAW เป็นการมองของใคร และอะไรคือ DEVIL ในหนังเรื่องนี้ อันที่จริงพลอตมันซ้ำซากมากๆว่าด้วยการที่คนคนหนึ่งถูกความแค้นฉุดลากลงไปสู้กับปีศาจด้วยการกลายเป็นปีศาจเสียเอง ตัวเรื่องคือ ฆาตกรโรคจิตจับผู้หญิงไปฆ่าหั่นศพ จับเมียเขาไปฆ่าหั่นศพ เขาเลยพักงาน ออกตามล่าตัวฆาตกร   เล่นเกมแมวจับหนูโดยจับแล้วปล่อย จับมันมาทรมาน แล้วให้มันหนีไป แล้วตามไปทรมานมันอีก จนไปเจอพวกกินเนื้อคน ไปเจอการโต้กลับของฆาตกรโรคจิต แล้วทั้งหมดลงเอยกันอย่างบ้าระห่ำ
บางทีDEVIL ก็อาจหมายถึงความรุนแรงทั้งหมดในหนังก็เป็นได้ จะว่าไปหนังเป็นเหมือนหนังในทำนอง LAST HOUSE ON THE LEFT หรือ  I SPIT ON YOUR GRAVE เป็นหนังแบบการตามล่าล้างแค้นพวกทรชน แบบตาต่อตาฟันต่อฟัน ส่วนที่ต่างกันคือมันออกจะเป็นแนวกลับหัวกลับหางเน้นกันคนละส่วน นั่นคือแทนที่จะเป็นtorture porn ของเหยื่อสาว กลับเป็นtorture porn ของตัวฆาตกรเอง ในขณะที่คนดูหนังกลุ่มนี้ได้รับความพึงพอใจทางตาสองต่อจากการดูเหยื่อสาวถูกทารุณเปิดเผยเนื้อหนังมังสา แล้วยังได้สำเร็จความใคร่ทางศีลธรรมผ่านทางการกำจัดพวกชั่วช้าใยช่วงท้าย ที่ละทิ้งการตั้งคำถามว่าความรุนแรงที่สาสมกันนั้นเป็นเรื่องที่เหมาะควรแล้วหรือ (แต่แน่นอน ความสาสมใจย่อมมาก่อน)

การย้อนรอยในหนังเรื่องนี้จึงทำหน้าที่ขยายผลความแค้นให้เบ่งบานออกมา เรามีตัวละครที่ชั่วอย่างไร้ที่ติในฐานะฆาตกรโรคจิตที่ไม่มีความเป็นมนุษย์เหลืออยู่อีกแล้ว เราเลือกข้างตัวเอกของเรื่องได้ในแทบจะทันที เราได้รับความสะใจอย่าสาสม เพราะเราได้เห็นฆาตกรโดนไล่ล่า โนทุบตีอย่างทรมานให้ตายช้าๆ ในขณะเดียวกันเวลาที่ยืดยาวออกไป ความโหดเหี้ยมที่ประเคนใส่หน้าเราชนิดที่ TORTURE PORN เป็นคำที่เบาเกินไปที่จะใช้อ้าง (หนังเกาหลี extremeรุนแรงในระดับที่หนักกว่า French extreme ในความคิดของผู้เขียน)  การณ์เลยเป็นว่าเราค่อยๆลอบสังเกตอาการ ‘เลยเถิด’ของตะวละครที่เราเอาใจช่วย ไม่ว่าจะเป็นความรุนแรงที่โหดเหี้ยมเกินไป หรือการที่เราหวั่นใจว่าถึงที่สุดเกมที่เขาวางหมากจะย้อนกลับมาเล่นงานเขาเองซึ่งมันก็เป็นเช่นนั้น

มันจึงเป็นเรื่องที่เข้าใจได้เลยว่าทำไมหนังจึงเลือกทางของการให้ความรุนแรงชนิดถึงลูกถึงคน  ชนิดที่เกินเลยไปมาก ชนิดที่เปิดเผยให้เห็นภาพของเลือด เนื้อ ศพ อาจม  หรือการกระทำทารุณแบบไม่ปิดบัง ความทารุณเหล่านี้คือปีศาจ คุณต้องนั่งดูมัน และความพึงใจค่อยๆละจากตัวคุณไปทีละน้อย  ความพึงพอใจของหารดูหนังในทำนองนี้ถูกเลาะออกให้เราเห็นถึงความชั่วร้ายแบบแท้จริงของมัน เมื่อเราเบือนห้าหนี บอกว่ามากเกินไป มันก็บรรลุผล ความสะใจถูกลอกเปลือกออกเห็นปีศาจที่เรายกย่องเป็นวีรบุรุษ มนุษย์ถูกความแค้นผลักให้ไปได้ไกลแค่ไหน และเขาจะได้รับสิ่งใดตอบแทน ราคาค่าใช้จ่ายของการสู้กับปีศาจด้วยการเป็นปีศาจ  กล่าวในจุดนี้ ฉากที่ดีที่สุดในหนังฉากหนึ่งจึงเป็นฉากที่นายตำรวจกระโดดเข้าไปต่อยพระเอกแล้วถามว่ารู้ไหมว่าทำอะไรลงไป

อย่างไรก็ดี เราจะมองว่าสิบห้านาทีสุดท้ายของหนังนั้นล้มเหลวหรือเปล่า เมื่อถึงที่สุดตัวละครกลับมาเผชิญหน้ากันอีกครั้ง และอีกครั้งหนังเลือกตอบสนองความสาแก่ใจของคนดู ฉากการทรมานและฆ่ากันในท้ายที่สุดนี้มันชวนให้คิดก้ำกึ่งระหว่างความพึงใจที่ได้ลงโทษล้างแค้นคนชั่ว กับการกระอักความรุนแรง แม้หนังจะเลือกทางที่โหดเหี้ยมที่สุดที่จะให้ได้ เราก็อดรู้สึกในทำนองว่า ความรุนแรงในฉากนี้นั่นมีความน่าพึงพอใจ เป็นการผ่อนคลาย จากบ่วงที่ตัวละครสร้างขึ้นรัดคอตัวเองมาตลอดเรื่อง  ปีศาจถูกทำลายลง อย่างสาแก่ใจที่สุด ว่าด้วยการแสวงหาความรู้สึก ที่ไม่ใช่ความสำนึกผิด (ตัวละครในเรื่องนี้ไม่มีความรูสึกผิด) แต่เป็นการสร้างความเจ็บปวดถึงที่สุดให้แก่กัน การโยนก้อนหินให้ทับหน้าอกของกันและกัน

อย่างไรก็ดีต่อให้หนังจบลงในฐานะหนังล้างแค้นไม่ติดค้าง หนังก็ถือว่าไปไกลในการสร้างปีศาจให้เราเห็น ปีศาจที่ว่าไม่ใช่คนคนใดคนหนึ่งแต่เป็นกระบวนการแห่งความรุนแรง ซึ่งกล่าวให้ถูฏต้องคือสิ่งที่เราตั้งความปรารถนาเอาไว้ในการตีตั๋วเข้าชมหนังเรื่องนี้

หนังจึงเป็นเหมือนลูกมือ FUNNY GAMES ของHANEKE เป็นเสมือน ภาคแยกของหนังอย่างTHE STRANGERS ซึ่งเราพอจะบอกได้ในที่สุดว่าไม่ใช่แค่เราตีตั๋วเขาไป SAW THE DEVIL แต่เราได้กลายเป็น DEVIL โดยการให้DEVIL ทำงานแทนเราในการเติมเต็มจินตนาการอันน่าพึงใจของการล้างแค้นนั้นเอง
(เขียนโดย filmsick ขอบคุณผู้เขียนมา ณ ที่นี้)


ตัวอย่างหนัง :



Plot

A woman named Joo-Yun (Oh San-Ha) is stranded in her broken down car on a snowy night. She talks to her fiance on her cellphone while she awaits for a tow truck. Her fiance is So-Hyun (Lee Byung-Hun), an agent for the National Intelligence Service.
Meanwhile, a yellow van stops in front of the woman's broken down car. A man named (Choi Min-Sik) gets out of the van and knocks on the woman's window. He offers to help her get the car started. The preoccupied fiance Soo-Hyun, still on the phone with Joo-Yun, advises her to stay in the car until the tow truck arrives and gets called away on business matters. Joo-Yun tells the creepy man that she will wait for the tow truck and raises her window shut. Moments later, the creepy man named Kyung-Chul smashes the passenger window open with a sledgehammer and beats Joo-Yun unconscious. Kyung-Chul takes Joo-Yun to his home and decapitates the woman.
A few days later, an ear is found in a plastic bag by children playing near a river. When the police arrive, they later find Joo-Yun's head in the river. At this moment So-Hyun arrives at the crime scene and witnesses his fiance's decapitated head.
At the funeral for Joo-Yun, Soo-Hyun apologizes to her for not being there to protect her and also promises to inflict pain 1,000x worse to the man responsible for her death.
When Soo-Hyun tracks down his fiance's killer he beats the man severely. The killer awakens the next day bloodied, but still alive. There is also an envelope with money left on his belly. Soo-Hyun's plan for vengeance is just beginning ...

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Nyob Zoo-น๊อ โยง-สวัสดี

Earthquake อยากบอกว่ารัก...เบาๆ